จอห์น สโตนส์ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวว่าเขารู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนที่ไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับฟุตบอลหลังจากที่เขาได้ย้ายมาร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เป๊ป กวาร์ดิโอล่า เป็นคนเซ็นสัญญากับกองหลังทีมชาติอังกฤษรายนี้มาจากทีม เอฟเวอร์ตัน ในปี 2016 ซึ่งนั่นเป็นปีแรกที่เป๊ปมาคุมทีมซิตี้และสโตนส์ก็ได้เปิดเผยว่า กวาร์ดิโอล่า สามารถปฏิวัติความเข้าใจของเขาเกี่ยวกับกีฬาประเภทนี้ได้อย่างไร

“ผมคิดว่าผมรู้จักฟุตบอลในระดับที่ดีอยู่นะ หลังจากที่ผมย้ายออกจากเอฟเวอร์ตันแน่นอน หลังจากที่ผมได้เซ็นสัญญาและเริ่มฝึกซ้อมหลังจากผ่านไปหนึ่งหรือสองสัปดาห์ ผมก็เริ่มคิดว่า ‘เฮ้ย นี่ตรูไม่รู้อะไรเกี่ยวกับฟุตบอลเลยสมองของเขา (เป๊ป) และวิธีที่เขามองเห็นทีมหรือแทคติกต่างๆ นั้น ผมไม่สามารถอธิบายให้คุณฟังได้ง่ายๆหรอกว่าเขาทำได้อย่างไรสมองของเขาคิดอย่างไรเกี่ยวกับฟุตบอล และวิธีที่เขาแสดงออกถึงเราในฐานะผู้เล่น – เพื่อให้ได้มาซึ่งพวกเราในทุกวันนี้ เขาทำในสิ่งที่เขาต้องการ สิ่งที่เขาคิด และสิ่งที่เขาเชื่อมั่น มันเป็นเรื่องที่โคตรจะน่าเหลือเชื่อมาก” สโตนส์กล่าวกับ Goal

เมื่อถามถึงสไตล์ของกวาร์ดิโอล่า เขาก็พูดต่อว่า “เข้มข้น และมีความต้องการในหลายๆเรื่องจากนักเตะในทีม และผมคิดว่านั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงประสบความสำเร็จอย่างมากในช่วงหกปีที่ผ่านมานี้ ซึ่งผมได้อยู่กับเขามาตลอด ผมคิดว่ามันมาจากจิตวิญญาณภายในตัวเขาน่ะแหละมันอยู่ในสายเลือดของเขาที่เป็นคนที่โตมาจากบาร์เซโลน่าด้วย”

งั้นบุกให้แหลกไปเลยก็แล้วกัน! แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยอดทีมว่าที่แชมป์พรีเมียร์ลีก ยังคงมีข่าวที่ไม่สู้ดีนักในเรื่องการไล่ล่าแชมป์พรีเมียร์ลีก เพราะตอนนี้พวกเขาจะไม่มีนักเตะเกมรับที่แข็งแกร่งลงสนามช่วยทีมอีกหลายคนเลยทีเดียวสกาย บลูส์ ตอนนี้พวกเขาขยับนำ ลิเวอร์พูล ที่เป็นรองจ่าฝูงไปไกล 3 แต้มเต็มๆแล้ว แม้ว่าจากตารางคะแนนจะยังเห็นชัดเจนว่าลิเวอร์พูลยังมีลุ้นอยู่
แต่หลังจากการถล่มนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ซะเละเทะ 5-0 เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานั้น มันก็มีสิ่งที่ทำให้แฟนบอลอดกังวลไม่ได้ว่าแมนเชสเตอร์ ซิตี้ อาจจะพลาดในช่วงโค้งสุดท้ายซะเอง

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ต้องเผชิญกับวิกฤตแนวรับบาดเจ็บติดต่อกันเข้าให้อีก หลังจากที่รูเบน ดิอาส กองหลังทีมชาติโปรตุเกสถูกถอดออกจากการแข่งขันในช่วงพักครึ่งด้วยปัญหาอาการบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อกวาร์ดิโอล่า ได้ยืนยันหลังเกมว่า ดิอาส , ไคล์ วอล์คเกอร์ และ จอห์น สโตนส์ จะพลาดการลงสนามอีกสามเกมที่เหลือของฤดูกาลนี้ และในการแถลงข่าวหลังเกม กวาร์ดิโอล่ากล่าวว่า “รูเบน, ไคล์ และจอห์น จะต้องพักแข้งจนกว่าจะจบฤดูกาล”

นาธาน อาเก้ กองหลังเลือดดัตช์ยังต้องดิ้นรนกับการเรียกความฟิต เพราะข้อเท้าของเขาก็เจ็บ โดยกวาร์ดิโอล่าได้กล่าวถึงเขาไปว่า น่าเสียดายแทน นาธาน เขาเองก็ยังไม่พร้อมลงเล่นเช่นกันเฟอร์นันดินโญ่ น่าจะได้ลงเล่นแทน ดิอาส ในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็ค และยังโดนถามอีกว่ามิดฟิลด์ชาวบราซิลมีความสำคัญต่อโอกาสในการคว้าแชมป์ของซิตี้อย่างไร ในสถานการณ์นี้ มันไม่ใช่ปัญหา เฟอร์นันดินโญ่ มีประสบการณ์ เขาเคยเล่นมาแล้ว ส่วนตำแหน่งของเขานั้น โรดรี้ ก็ได้อยู่แล้ว เรามีนักเตะในอะคาเดมี่ไว้หมุนเวียน ทุกคนต้องทำดีเป็นพิเศษแน่นอน”

23. นิค โป๊ป

เป็นเรื่องยากที่จะต้องทำการเลือกผู้รักษาประตูคนใดคนหนึ่งลงสนาม แต่ว่า นิค โป๊ป น่าจะสามารถเบียดทั้ง แซม จอห์นสโตนส์ และตัวของ ดีน เฮนเดอร์สัน เป็นตัวสำรองในทีมชาติตอนนี้ได้ เพราะเขาได้ลงเล่นเป็นประจำในพรีเมียร์ลีกมากกว่า 2 รายที่ว่า

22. ไทโรน มิงส์

มิงส์ ได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากปัจจัยหลักสามประการ – เขาตัวใหญ่ เขาเป็นนักเตะที่เล่นบอลด้วยเท้าซ้าย และเขาเป็นนักเตะที่มีความเป็นผู้นำสูง เป็นกองหลังที่แทบจะไม่เคยก่อความผิดพลาด น่าทึ่ง น่าจะพร้อมสำหรับการไปเล่นฟุตบอลโลกแน่นอน

21. เอมิล สมิธ โรว์

แม้แต่แฟน ๆ อาร์เซนอล ก็ยังประหลาดใจกับความยอดเยี่ยมของเอมิล สมิธ โรว์ ที่ทำผลงานในฤดูกาลนี้ได้ดี และน่าจะเป็นนักเตะยอดเยี่ยมแห่งปีอาร์เซนอลด้วย อีกทั้งเขายังได้ลงเล่นให้ทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ในเกมล่าสุด และยิงประตูให้กับทีมชาติได้แล้วด้วย โดยเขาหวังจะติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกปีหน้าด้วยเช่นกัน

20. ลุค ชอว์

ลุค ชอว์ กำลังอยู่ในช่วงเวลาที่พีค เขาทำประตูในนัดชิงชนะเลิศยูโร 2020 ได้ และยังทำให้เขากลายเป็น 1 ในแบ็กซ้ายที่ดีที่สุดในโลกด้วย ก็แน่นอนล่ะว่าเขาเป็นนักเตะที่เล่นเกมรุกและรับได้ดีในตัว สกิลการรแย่งบอลยังสุดยอด เขาควรติดทีมไปด้วยจริงๆ

19. มาร์คัส แรชฟอร์ด

ตอนนี้ไม่มีอาการปวดไหล่หลังการผ่าตัดแล้ว แต่เรายังคงต้องรอที่จะเห็น แรชฟอร์ด กลับมาเล่นแบบมีชีวิตอีกครั้งในช่วงหลังจากนี้ แต่เราก็ไม่ได้สงสัยในความสามารถของเขา แต่เห็นเขายิงประตูอีกครั้งได้เมื่อไหร่ เราก็ลุ้นได้ยาวๆเลย

18. จอห์น สโตนส์

หลังจากกลับมาสู่การเป็น 11 นักเตะตัวจริงของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เมื่อฤดูกาลที่แล้ว ดูเหมือนว่าเป๊ป กวาร์ดิโอล่าจะชอบให้อายเมริค ลาปอร์กต์ ได้ลงเล่นเป็นพาร์ทเนอร์ร่วมกับ รูเบน ดิอาส แทนที่จะเป็นจอห์น สโตนส์ ที่ได้ลงเล่นแต่อย่างไรก็ตาม เขายังคงเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดของเซาท์เกทในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็คอยู่ดี

17. เมสัน กรีนวูด

เซาท์เกตมีความตั้งใจที่จะให้โอกาส เมสัน กรีนวูด ลงเล่นอยู่แล้ว ไอ้หนูรายนี้มีชื่ออยู่ในกลุ่ม 26 นักเตะชุดทำศึกยูโร 2020 มาแล้ว และอาจได้โอกาสจุดโทษในการแข่งขันนัดขิงชนะเลิศกับอิตาลีด้วย ถ้าหากเขาฟิต แต่ตอนนี้ถ้าเขายิงประตูได้ต่อเนื่อง เขาก็จะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกแน่นอน

16. บูคาโย ซาก้า

ปีกซ้ายรายนี้เป็นความฝันของผู้จัดการทีมชาติทุกรรุ่นที่จะหนีบเขาไปเล่นกับทีมชาติด้วย เพราะความสามารถในการเล่นในตำแหน่งต่างๆ ทั่วทั้งสนามด้วยมาตรฐานการเล่นที่สูง ทำให้ ซาก้า จะเป็นประโยชน์ต่อทีมชาติแน่นอนความทรงจำเกี่ยวกับการพลาดจุดโทษในรอบชิงยูโรนั้น มันจะทำให้เขาแข็งแกร่งขึ้น และเป็นกำลังสำคัญในทีมได้อยู่เสมอ

15. อารอน แรมส์เดล

ว่ากันว่าสาเหตุที่ทำให้ อาร์เซนอล ฟื้นตัวได้มากขนาดนี้ ก็มาจากการเล่นที่ยอดเยี่ยมของ แรมส์เดล ที่เซฟประตูได้แบบอุตลุตเลยนี่เอง และคาดว่าเขาจะกลายเป็นคู่แข่งที่น่าสนใจของทั้ง จอร์แดน พิคฟอร์ด และนายทวารอีกหลายๆคนที่อยากจะติดทีมชาติกันเลยทีเดียว

14. จู๊ด เบลลิงแฮม

นอกเหนือจากกลุ่มกองกลางตัวรับรายอื่นๆในพรีเมียร์ลีกจะกำลังแย่งตำแหน่งในทีมชาติกันอย่างดุเดือดแล้วนั้น เบลลิงแฮม ก็ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองว่าเป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในบุนเดสลีกาไปแล้ว และมันก็ไม่แน่ว่าในฟุตบอลโลกปีหน้า เขาก็อาจจะได้ไปวาดลวดลายที่กาตาร์ด้วยก็ได้

13. แจ็ค กรีลิช

แน่นอนว่า แจ็ค กรีลิช อาจยังเล่นได้ไม่คุ้มกับค่าตัว 100 ล้านปอนด์ และไม่ได้ทำผลงานได้โดดเด่นมากนักที่แมนฯ ซิตี้ แต่เขาก็ยังอยู่ในระดับท็อปคลาสและอาจจะได้เป็นตัวทีเด็ดในทีมชาติชุดทำศึกฟุตบอลโลกก็ได้

12. แฮร์รี่ แม็กไกวร์

ผลงานน่าผิดหวังสุดๆในฤดูกาลนี้ แต่เขาก็ยังเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของอังกฤษในตำแหน่งเซ็นเตอร์แบ็กอยู่ดี

11. ไคล์ วอล์คเกอร์

ประสบการณ์ ความเร็วในการบุก การคุมพื้นที่ริมเส้น และความเก่งกาจของไคล์ วอล์กเกอร์ในการเล่นเป็นเซ็นเตอร์แบ็กในรระบบแบ็กทรีก็ได้ นั่นก็หมายความว่าเขาต้องติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลกด้วยแน่นอน

10. เบน ชิลเวลล์

ชอว์อาจต้องเจอกับงานหนักในการรแย่งตำแหน่งแบ็กซ้ายตัวจริงในทีมชาติอังกฤษกับตัวของ เบ็น ชิลเวลล์ ซึ่งมันก็เป็นมาตั้งแต่เมื่อปีที่แล้ว และกองหลังจากเชลซีรายนี้ ก็ได้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมตั้งแต่ออกสตาร์ทซีซั่น 2021-22 แม้ตอนนี้เขาจะยังบาดเจ็บ แต่ก็น่าจะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกแน่นอน

9. จอร์แดน เฮนเดอร์สัน

ถ้าไม่มีปัญหาอาการบาดเจ็บ ห้องเครื่องมันสมองของลิเวอร์พูลรายนี้ ยังไงก็ต้องติดทีมชาติไปเล่นฟุตบอลโลกอย่างแน่นอน

8. จอร์แดน พิคฟอร์ด

ยูโร 2020 อันน่าทึ่งของเขา มันควรจะจบลงด้วยการที่เขาคว้าแชมป์ยูโร และเขาควรที่จะได้รางวัล Player of the Tournament มากกว่าที่ จิจี้ ดอนนารุมม่า ได้รับไปด้วยซ้ำ หากว่าในการยิงจุดโทษ อังกฤษเป็นฝ่ายชนะ และมันอาจจะทำให้เขาได้รับการยกย่องมากกว่านี้ และหนนี้ เขาก็จะได้ติดทีมไปเล่นฟุตบอลโลกเช่นเดิม

7. เดคลัน ไรซ์

แม้ว่าเขาจะไม่ได้เล่นได้อย่างร้อนแรงในยูโร 2020 แต่ไรซ์ ก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดในพรีเมียร์ลีกที่โชว์ฟอร์มดีอย่างเงียบ ๆ นับตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมาไม่ว่าเขาจะอยู่ที่เวสต์แฮมหรือสโมสรแห่งไหน แต่เขาก็จะได้ไปเล่นฟุตบอลโลกด้วยแน่นอน

6. รีซ เจมส์

การเริ่มต้นแคมเปญการแข่งขันซีซั่นใหม่ของ รีซ เจมส์ มันได้ทำให้เขาโดนนำตัวไปเปรียบเทียบกับ สตีเว่น เจอร์รารร์ด ในสมัยยังเล่นบอลอาชีพเลยทีเดียวเพราะเขาเป็นแบ็กขวาที่สามารถหุบเข้ามาเล่นเป็นมิดฟิลด์ได้แบบเนียนตาได้ เหลือเชื่อจริงๆ

5. เมสัน เมาท์

ไม่สำคัญหรอกว่าบทบาทของ เมาท์ ในสนามจะเป็นอย่างไร เขาจะเล่นอย่างไร – เขาจะหาวิธีที่จะทำให้ทีมเล่นได้ดีขึ้นและทำให้ผู้เล่นรอบตัวเขา ทำผลงานได้ดีไปด้วย

4. เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์

จำได้ไหมว่าครั้งหนึ่ง มันเคยมีการถกเถียงกันว่าเทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ควรอยู่ในทีมชาติอังกฤษหรือไม่? ตอนนี้ก็น่าจะได้คำตอบแล้วนะว่า นี่เป็นแบ็กขวาที่ดีที่สุด แถมยังกลับมาทำผลงานได้น่าสะพรึงกลัวมากกว่าที่เคยเป็นมาซะอีก

3. ฟิล โฟเดน

ในแง่ของความสามารถ ฟิล โฟเดน ควรได้รับการยกย่องในระดับเดียวกับ เวย์น รูนี่ย์ และพอล แกสคอยน์ เลยด้วยซ้ำแต่ก็แย่จัง เขายังไม่ได้สร้างเกียรติประวัติได้ในระดับที่เท่าเทียมกับพวกเขาด้วยเท่าไหร่ แต่กระนั้นแล้ว โฟเดน ก็ถือว่าหนึ่งในผู้เล่นที่ดีที่สุดของพรีเมียร์ลีกที่สามารถเล่นได้ทุกที่ในแนวรุกและในแดนมิดฟิลด์

2. ราฮีม สเตอร์ลิง

นี่เป็นความคิดที่น่าสนใจว่า ถ้าหากแมนฯ ซิตี้ได้ถ้วยแชมเปี้ยนส์ลีกและอังกฤษได้แชมป์ยูโร 2020 ราฮีม สเตอร์ลิง จะอยู่บนโพเดียมลุ้นบัลลงดอร์หรือไม่?
มันยากที่จะโต้แย้งในเรื่องนี้ แต่เขาก็เป็นหนึ่งในผู้เล่นที่เซาท์เกตพึ่งพาความสามารถได้มากที่สุด

1. แฮร์รี่ เคน

ก็เป็นกัปตันทีมชาติอังกฤษนี่นะ – ไม่ว่าคุณจะชอบหรือไม่ก็ตาม แต่ยังไงเขาก็ต้องติดทีมไปด้วย

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ออกมาบอกใบ้กลายๆว่า พฤติกรรมนอกสนามบางอย่างของ จอห์น สโตนส์, แจ็ค กรีลิช และฟิล โฟเดน ทำให้พวกเขาต้องนั่งสำรองในเกมที่แมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเอาชนะนิวคาสเซิ่ล ยูไนเต็ด ได้แบบขาดลอยเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาทั้งสามคนถูกแทนที่โดย กาเบรียล เฮซุส , เจา กานเซโล่ และราฮีม สเตอร์ลิ่ง แถมทั้งสามคนที่ได้ลงเล่นแทนนั้นยังระเบิดฟอร์มเก่งได้ด้วย โดยที่ เฮซุส ทำแอสซิสต์ให้กับ สเตอร์ลิ่ง ได้กระซวก 1 ประตู ส่วนกานเซโล่ ก็หวดตูมเดียวเป็นประตู 1 ลูกจากนอกเขตโทษด้วย

และตัวของเป๊ป ก็ได้ยืนยันว่าการที่ 3 กุมารทั้ง สโตนส์ , กรีลิช , โฟเดน ไม่ได้ลงเล่น ไม่ได้เกิดจากการโรรเตชั่น แต่เพราะพวกเขาทำตัวพิลึกๆนอกสนาม เขาเลยลงโทษไม่ได้เป็นการหมุนเวียน ไม่ใช่เลย” ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวกับสื่อ “ผมตัดสินใจเลือกนักเตะลงเล่นในเกมนี้ใหม่เพราะพวกเขาสมควรได้ลงเล่นในวันนี้ ส่วนที่อีกกลุ่มหนึ่งที่ไม่ได้ลงเล่น ผมมีเหตุผล”

“ในช่วงคริสต์มาส ผมให้ความสนใจเป็นอย่างมากกับพฤติกรรมทั้งในและนอกสนาม และเมื่ออยู่นอกสนาม หากมีนักเตะบางรายทำตัวไม่เหมาะสม พวกเขาจะไม่ได้ลงเล่น และแน่นอนว่าทั้งสามคนต้องปรับปรุงตัวดังนั้นเราจึงต้องเพ่งสมาธิไปที่การซ้อมและการแข่งขันอยู่ตลอดเวลา เพราะมีสิ่งรบกวนสมาธิอยู่เยอะมากในช่วงคริสต์มาสและทุกสิ่งที่เกิดขึ้นได้ คุณยังต้องเพ่งความสนใจไปที่การแข่งขันอยู่ เพราะเราไม่ได้หยุดนะ”

แนวรับก็จะอ่อนยวบลงมาหน่อย! จอห์น สโตนส์ ปราการหลังของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่มีชื่อลงเล่นให้กับทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมนัดกลางสัปดาห์ที่พวกเขาจะต้องเผชิญหน้ากับทีม คลับ บรูจก์ ในศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีกรอบแบ่งกลุ่ม กองหลังทีมชาติอังกฤษ จะไม่ได้ลงสนามร่วมกับเพื่อนร่วมทีมของเขา เพราะเนื่องจากเหตุผลส่วนตัวที่ไม่ได้มีการแจกแจงรายละเอียดออกมา ตามที่ แมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง สแตนดาร์ด ได้รายงานข่าวเอาไว้

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า จะมีผู้เล่นทั้งหมด 18 คนในการไปลุยศึกที่ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งหนนี้ คลับ บรูจก์ จะได้เป็นเจ้าบ้านเปิดรังรับการมาเยือนของรองแชมป์เก่าแชมเปี้ยนส์ลีกสิ่งที่ยังน่ายินดีก็คือว่า แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะได้ตัวของ เอแดร์ซอน ผู้รักษาประตูชาวบราซิล และตัวของ กาเบรียล เฮซุส กองหน้าชาวบราซิลมาเล่นกับทีม หลังจากที่ทั้งสองรายนี้ไปเล่นให้กับทีมชาติบราซิล แล้วก็ได้กลับมาร่วมซ้อมกับทีมได้ทันเวลา

โคล พาลเมอร์ สตาร์ดาวรุ่งของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ก็จะได้อยู่ในทีมชุดนีเเช่นกัน โดยเพลย์เมกเกอร์ดาวรุ่งรายนี้สามารถทำประตูให้ทีมชุดใหญ่ได้ในเกมกับเบิร์นลีย์ และที่สำคัญคือ โคล สามารถกดแฮตทริกให้ทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ชุดยู-23 ได้สำเร็จเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาอีกด้วยแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังว่าจะแก้มือจากการแข่งขันในฤดูกาลที่แล้ว หลังจากที่พวกเขาสามารถทำผลงานได้ดี ด้วยการกรุยทางไปถึงรอบชิงชนะเลิศ แต่ก็ดันพลิกล็อกพ่ายแพ้ให้กับเชลซีที่มี โธมัส ทูเคิ่ล เข้ามาคุมทีมแค่ 5 เดือนซะแบบนั้น

เป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวว่าตัวของ จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์แบ็กชาวอังกฤษ จะพร้อมเสมอในการลงเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อีกครั้งกองหลังรายนี้ไม่ได้มีส่วนร่วมกับการลงเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในช่วงสองเกมที่ผ่านมา – ซึ่งสองเกมที่ซิตี้ไม่ได้ใช้งาน สโตนส์ พวกเขาเอาชนะด้วยสกอร์ 5-0 ทั้ง 2 เกมติดต่อกัน โดยมีรูเบน ดิอาส และอายเมริค ลาปอร์กต์ เป็นเซ็นเตอร์แบ็กตัวหลักในแนวรับ

เควิน เดอ บรอยน์, สโตนส์ และฟิล โฟเด้น ต่างก็ได้หายไปจากรายชื่อนักเตะของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เหมือนๆกันเพราะด้วยอาการบาดเจ็บ แต่ในตอนนี้พวกเขากำลังเร่งฟื้นตัวจากอาการบาดเจ็บ และอาการล้าสะสมที่พวกเขาได้รับในช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาอย่างไรก็ตาม สโตนส์ จะได้ไปเข้าร่วมฝึกซ้อมกับทีมชาติอังกฤษของ แกเร็ธ เซาธ์เกต อย่างแน่นอนซึ่งตัวของ กวาร์ดิโอล่า มั่นใจแบบนั้น

“จอห์นกลับมาฟิตช้าไปหน่อย และหลังจากที่เราจะเตรียมตัวลงเล่นในเกมที่สอง เขามีปัญหาที่ขา เขาได้รับบาดเจ็บและสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์แรกที่เขาได้เริ่มฝึกซ้อมแบบเต็มตัว แต่ว่ารูเบน และ อายเมอริค ก็เล่นได้ดีมาก แถมเข้าขากันด้วยมันเป็นเรื่องดีสำหรับทีมชาติ หวังว่าพวกเขาจะดูแล จอห์น ได้ดีนะครับ และเขาก็ดูแลตัวเองได้ และมันเป็นสิ่งสำคัญที่เขาจะต้องรักษามาตรฐานในการฝึกซ้อมไว้ด้วย เขาต้องการลงเล่น และจังหวะการได้กลับไปเล่นให้กับทีมชาติจะดีสำหรับเรา และดีกับความฟิตของเขาด้วย” กุนซือซิตี้ กล่าวกับแมนเชสเตอร์ อีฟนิ่ง นิวส์

ไคล์ วอล์คเกอร์ ฟูลแบ็คตัวทะลวงของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ยอมรับว่าตัวขอวง จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟเชิงสูงเพื่อนร่วมสโมสร มีจิตใจที่แข็งแกร่งกว่าในอดีตแล้วสโตนส์ ได้ลงเล่นในเกมที่อังกฤษได้แข่งขันกับทีมชาติโปแลนด์ในการแข่งขันฟุตบอลโลกรอบคัดเลือก ซึ่งเป็นนัดที่สำคัญของพวกเขาอย่างมากเมื่อวันพุธที่ผ่านมาอังกฤษเป็นฝ่ายทำประตูขึ้นนำไปก่อน 1-0 ในเกมนี้ด้วยการยิงจุดโทษของ แฮร์รี่ เคน กองหน้ากัปตันทีมชาติ ก่อนที่ข้อผิดพลาดของ สโตนส์ ที่ได้ก่อในเกมนี้ มันจะนำไปสู่การเสียประตูให้กับโปแลนด์ จากการยิงของ ยาคุบ โมเดอร์ ที่ยิงตีเสมอให้กับโปแลนด์ได้แต่เขาก็สามารถฟื้นสติได้ทัน และได้จัดการทำแอสซิสต์ให้ แฮร์รี่ แม็กไกวร์ เซ็นเตอร์ฮาล์ฟคู่หูจากแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตะบันประตูชัยได้สำเร็จ มันเลยทำให้อังกฤษได้สามแต้มในเกมนี้ไป

“นั่นแสดงให้เห็นถึงคาแรคเตอร์ของจอห์นในปีนี้มันยอดเยี่ยมมาก ผมได้ทำงานร่วมกับเขาในทุกๆวัน, วันพักผ่อนที่ซิตี้ และเวลาอยู่ในสนามซ้อม เขาทำทุกอย่างเพื่อไปให้ถึงจุดที่เขากำลังเป็นอยู่ในตอนนี้ การเล่นของเขามันแสดงให้เห็นเลยว่าเขาก้าวหน้ามาก” วอล์คเกอร์บอกกับ สกาย สปอร์ต

“หกเดือนที่แล้วอาจเป็นไปได้ว่า จอห์น สโตนส์ อาจจะยังไม่หายเมาหมัด แต่ตอนนี้เขาก็ได้ก้าวหน้าขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว เขาสุดยอดมากเขาช่วยเหลือทีมได้ ทำให้ทีมชนะด้วยการเปิดบอลให้ แม็กไกวร์ ยิงประตู เขายอดเยี่ยมมากในฤดูกาลนี้นั่นถือเป็นเครดิตสำหรับเขา”ห

จอห์น สโตนส์ กองหลังทีมชาติอังกฤษของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้รู้สึกว่าการกลับเข้าสู่แคมป์ของทีม “ทรีไลออนส์” อีกครั้งนั้นมันจะเป็นความท้าทายที่ช่วยปรับปรุงเกมการเล่นของเขาได้แน่นอนสโตนส์ กำลังอยู่ในช่วงที่มีฟอร์มการเล่นที่โดดเด่นสุดๆในการเล่นให้กับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในฤดูกาลนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อจับคู่กับ รูเบน ดิอาส กองหลังทีมชาติโปรตุเกส ซึ่งทั้งคู่เล่นเข้าขากันมากเลยทีเดียวทั้งสองคนได้กลายเป็นพาร์ทเนอร์ในเกมรับที่เล่นบอลเข้าขากันดีที่สุดในลีกเลยทีเดียว และปัจจุบัน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เป็นจ่าฝูงของพรีเมียร์ลีกด้วยตอนนี้ สโตนส์ มีแนวโน้มที่จะได้เริ่มต้นเป็นตัวจริงในทีมชาติอังกฤษด้วย และในขณะเดียวกัน พวกเขาก็กำลังเตรียมตัวสำหรับลงเล่นในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกและเขารู้สึกยินดีที่ได้กลับมาเล่นทีมชาติอีกครั้ง

“ผู้เล่นเหล่านั้น ได้เข้ามาช่วยเพิ่มแรงจูงใจในการพัฒนาฝีเท้าของผม มันทำให้ผมกล้าพิสูจน์ตัวเองจนก้าวขึ้นมาและพิสูจน์คุณค่าของผมได้ผมจะลงสนามและทำทุกสิ่งที่ต้องทำ ในฐานะผู้เล่นนั้น คุณต้องไม่หยุดในการพัฒนาฝีเท้า ทุกอย่างคือความท้าทาย ผมเห็นว่านี่เป็นความท้าทาย – ความท้าทายในการต่อสู้และความท้าทายใหม่ในการรักษาฟอร์มการเล่นที่ดีเอาไว้” สโตนส์กล่าวกับผู้สื่อข่าว

“ผมคิดว่าผมอยากจะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็น และอยากก้าวข้ามตัวเองด้วยเขากล่าวเสริมว่า มันโล่งใจมากนะ ที่ผมกลับมาเล่นให้กับทีมชาติอังกฤษได้อีกครั้ง ผมทำงานหนักมากและได้ยินคนพูดกันเยอะเลยว่าผมควรจะได้ติดทีมชาติ แต่ผมไม่ได้ทำอะไรเลยจนกว่าจะได้รับโทรศัพท์เรียกตัวไปเล่น ผมพร้อมแล้วกับการเล่นให้ทีมชาติอังกฤษ”

แกเร็ธ เซาธ์เกต ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่ ได้รับการกล่าวถึงจากตัวของ จอห์น สโตน์ กองหลังลูกทีมจากเชลซีว่า เจ้าตัวนั้นเป็นคนที่ไร้ความปรานี และมักจะคุมทีมด้วยความดุดันมากเป็นพิเศษ นั่นเป็นไปตามที่ตัวของ จอห์น สโตนส์ เซ็นเตอร์แบ็กฟอร์มแรงจากแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ผู้ซึ่งได้รับการเรียกตัวคืนสู่ทีมชาติอังกฤษในรอบหลายปีเพื่อได้ลงเล่นในรอบคัดเลือกฟุตบอลโลกในเดือนนี้ ได้กล่าวเอาไว้ว่า เซาธ์เกต จัดว่เป็นผู้จัดการทีมที่โหดที่สุดคนหนึ่ง เมื่อถามถึงคาแรคเตอร์ของ เซาธ์เกต ตัวของ สโตนส์ ก็ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า

“ผมคิดว่ามันเป็นคาแรคเตอร์เฉพาะตัวของผู้จัดการทีมที่ดี … ผู้จัดการทุกคนต้องมีดีเอ็นเอความโหดเหี้ยมฝังอยู่ในตัว ดีเอ็นเอของพวกเขาจะเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขากล้าพูด กล้าสั่งการ ทำให้นักเตะในทีมใส่เกียร์เต็มร้อยได้ผมคิดว่ามันเป็นการกระตุ้นที่ดีเลยนะ บางคนอาจจะคิดว่าสิ่งทีเขาทำมันไม่ถูกต้อง การต้องว้าก การต้องตะคอก แต่ผมคิดว่าในบางครั้ง มันจำเป็นมากเพราะเขาสามารถกระตุ้นลูกทีมให้ตื่นจากภวังค์ได้”

“จากประสบการณ์ของผม ผู้จัดการทุกคนที่ผมเคยร่วมงานอยู่ด้วยนั้น มีความโหดเหี้ยมในตัวเองกันทุกคนแหละในฐานะผู้เล่น เราต้องเคารพสิ่งนั้นเพราะเขาจะช่วยคุณพัฒนาเสมอ และผมชอบกุนซือแบบนี้นะ เขาดูเปิดเผยกับเราเสมอ และเป็นคนที่เราสามารถวางใจได้ และตราบใดที่คุณมีความโหดแบบนั้นอยู่ในตัวคุณ คุณก็จะรู้ได้เสมอว่าคุณเล่นดีหรือแย่ ถือว่าเป็นเครดิตสำหรับเขา”

จอห์น สโตนส์ ปราการหลังซูเปอร์สตาร์ของทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวว่าในทุกวันนี้ เขาเองก็ยังคงรู้สึกยำเกรงต่ออำนาจในการเล่นของเพื่อนร่วมทีมอย่าง เควิน เดอ บรอยน์ อยู่พอสมควรเลยทีเดียวสโตนส์ กำลังอยู่ในช่วงที่มีฟอร์มการเล่นที่น่าตื่นเต้นที่สุดในชีวิตของเขาเลยทีเดียว โดยล่าสุดนั้น สโตนส์ ทั้งเล่นเกมรับแข็งแกร่งและยังเติมขึ้นไปทำประตูได้อีกด้วย ในเกมที่ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ เอาชนะ 4-0 เหนือทีม คริสตัล พาเลซ ในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

เขาสามารถช่วยให้เกมรับของซิตี้แข็งแกร่งมากขึ้นยามจับคู่กับ รูเบน ดิอาส ทำให้กองหลังของพวกเขาเหนียวแน่นอย่างสุดๆ และที่สำคัญคือ สโตนส์ ยิงคนเดียวสองประตูในเกมนี้ได้อีก แต่กระนั้นแล้ว เขาก็ขอสงวนคำชมเอาไว้ให้กับ เดอ บรอยน์ เพื่อนร่วมทีมของเขาที่โชว์ฟอร์มได้อย่างโดดเด่นเช่นกันในฤดูกาลนี้จอมทัพชาวเบลเยี่ยม โชว์ความแม่นด้วยการวางบอลจากริมเส้นมาเข้าหัวของ สโตนส์ ได้อย่างยอดเยี่ยม และนั่นก็เป็นประตูแรกของเกมนี้ที่สโตนส์ทำหั้บทีม

“เควิน เดอ บรอยน์ ทำแบบนั้นมาตลอดหลายปีที่เขาอยู่ที่นี่ มีบางอย่างที่ทำให้ผมรู้สึกหวาดหวั่นในตัวของเขา นั่นคืออำนาจในการบัญชาการเกม เขานิ่ง เขาสุขุม ซึ่งคุณต้องคิดเลยล่ะว่า ผมไม่รู้ว่าเขาทำอย่างนั้นได้อย่างไร บอลมันตรงมาหาผมเหมือนเขาเล็งไว้เลย – มันเป็นสิ่งที่เราเคยแต่ฝันถึงเท่านั้นและเขาจะทำได้ทันทีเมื่อเขาต้องการ สุดยอดเลย” สโตนส์บอกกับ สกาย สปอร์ต

จอห์น สโตนส์ กองหลังชาวอังกฤษของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้ยอมรับว่าการหวนคืนสู่การเป็นนักเตะทีมชาติอังกฤษชุดใหญ่อีกครั้ง มันจะมีความหมายมากสำหรับเขามากหลังจากที่ สโตนส์ โชว์ฟอร์มเก่งอย่างสุดๆในฤดูกาลนี้สโตนส์ สามารถกลับมายึดตำแหน่งตัวจริงของเขาในทีม แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้อีกครั้งหลังจากที่ได้จับคู่กับ รูเบน ดิอาส ลงเล่นได้อย่างเข้าขา

และตอนนี้เขาก็กลายเป็นตัวเลือกแรกของพวกเขาไปแล้ว และยังยิงคนเดียว 2 ประตูในเกมกับ คริสตัล พาเลซ อีกด้วยการฟื้นตัวของเขาที่สโมสรดังของพรีเมียร์ลีก ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าทึ่งเลยทีเดียว ทั้งๆที่เขาเองก็เคยได้รับอนุญาตให้ย้ายออกจากสโมสรมาแล้วในช่วงฤดูร้อน แต่เขาเลือกที่จะอยู่กับทีมต่อไปและต่อสู้เพื่อหาตำแหน่งตัวจริงในทีมของเขา และตอนนี้เขาต้องการกลับมาเล่นในนามทีมชาติอังกฤษอีกครั้งด้วยเช่นกัน

“มันยากในตอนแรก เพราะเมื่อคุณไม่ได้เล่นให้กับสโมสรของคุณเลย และโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าหากว่าคุณไม่ได้เล่นให้กับสโมสรของคุณ ก็อย่าหวังว่าจะได้ลงเล่นให้กับทีมชาติของคุณด้วยการดูพวกเขาเล่นทางทีวี เป็นสิ่งที่ผู้เล่นอาชีพไม่อยากทำกันหรอก ที่ผมอยากทำก็คือได้ลงไปเล่นในสนาม และจากนั้นผมก็อยากจะสร้างความประทับใจให้กับ กาเร็ธ [เซาท์เกท] ถ้ามันเกิดขึ้น มันจะหมายถึงทุกอย่างที่ผมทำไว้มันบรรลุผลนั่นเอง ผมอยากทำให้ได้แน่นอน” นักเตะเกมรับวัย 26 ปีกล่าวกับสื่อหลังยิงได้ 2 ลูกในเกมที่ชนะคริสตัลพาเลซ 4-0

โจลีออน เลสคอตต์ อดีตกองหลังของสโมสร แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวว่าเขาประทับใจในการเล่นที่เข้าขากันมากระหว่างตัวของ จอห์น สโตนส์ และ รูเบน ดิอาส สองเซ็นเตอร์ฮาล์ฟที่ได้จับคู่กันเป็นครั้งแรกในฤดูกาลนี้ การเล่นที่เข้ากัน รู้ใจกันระหว่างกองหลังทีมชาติโปรตุเกสและกองหลังทีมชาติอังกฤษ ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในจุดเด่นที่ทำให้การเล่นเกมรับของ ซิตี้ เหนียวแน่นมากขึ้นกว่าเดิมในช่วงสองเดือนที่ผ่านมา และยังเหนือกว่าในสมัยที่ สโตนส์ จับคู่กับ อายเมอริค ลาปอร์เต้ กองหลังเลือดน้ำหอมด้วยเช่นกัน และตัวของ เลสคอตต์ ก็ได้กล่าวกับเว็บไซต์ของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปว่า

“การร่วมมือกันระหว่างตัวของ ดิอาส กับ สโตนส์ มันเริ่มน่ากลัวขึ้นเรื่อย ๆ พวกเขารู้ใจกันมากเลยล่ะสิ่งนี้มาพร้อมกับการเล่นที่ยอดเยี่ยม เกมรับแน่นปึ้ก และนั่นคือองค์ประกอบสำคัญของการเป็นพาร์ทเนอร์ระหว่างกันของผู้เล่นเซ็นเตอร์แบ็ค ความไว้วางใจต่อกันนั้นสำคัญมาก ผมได้เห็นการเล่นของพวกเขาก็คือ ถ้าคนหนึ่งเข้าชน อีกคนจะคอยซ้อนและเก็บบอล มันลงตัวมาก”

“คุณเห็นพวกเขาสลับกันทำหน้าที่ได้อย่างลงตัวไหมล่ะ พวกเขาทำได้ดีมาก แถมยังโหม่งเคลียร์บอลได้ดีมากตอนนี้แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มีเกมรับที่เหนียวแน่นที่สุดเลยล่ะ มันช่วยให้ผู้รักษาประตูมีโอกาสตั้งสติมากขึ้นด้วยถ้าหากว่าคู่กองหลังเล่นบอลกันได้เข้าขากันแบบนี้มันเป็นประโยชน์สำหรับทีมมากเลยทีเดียว มันน่าชื่นชมที่พวกเขาเล่นบอลเข้าขากันมาก”

จอห์น สโตนส์ กองหลังตัวกลางชาวอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ได้กล่าวว่าเขามีความสุขกับการที่เขาได้กลับมาลงเล่นฟุตบอลอย่างต่อเนื่องอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ สโตนส์ ทำท่าว่าจะกลายเป็นส่วนเกินในทีมไปแล้วกองหลังรายนี้สามารถเค้นฟอร์มเก่งออกมาได้ ในขณะที่ อายเมอริค ลาปอร์เต้ กองหลังทีมชาติฝรั่งเศสกลับฟอร์มหลุดซะเอง และทำให้ ลาปอร์เต้ มีหลุดจากทีมซิตี้ในช่วงหลังๆเช่นกัน และสโตน์ก็คว้าโอกาสนี้ไว้ได้ตั้งแต่ในช่วงต้นฤดูกาลเลยทีเดียวสโตนส์ ได้กล่าวว่า

“ผมรู้สึกดีมาก ผมแค่อยากพยายามช่วยทีมให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ และผมจะคว้าโอกาสเอาไว้แน่นๆเมื่ออยู่ในสนาม และผมอยากมีส่วนร่วมกับทีมให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ผมมีความสุขอย่างเต็มที่ในทุกช่วงเวลาที่ได้อยู่กับทีม ในทุก ๆ การแข่งขัน ผมรู้สึกฟิตและพร้อมที่จะต่อสู้เพื่อทุกสิ่ง ผมอยากได้ทุกแชมป์ที่เราได้ลงเล่น”เขากำลังฟื้นฟูความมั่นใจในการเล่นของเขาได้มากขึ้น และยังมีความมุ่งมั่นที่มากกว่าเดิมด้วยซ้ำ

“มันทำให้คุณรู้เลยว่าคุณทำงานหนักแค่ไหนและการทำงานหนักก็คุ้มค่ามันทำให้คุณรู้ได้ว่าการได้ลงสนามนั้นพิเศษแค่ไหน และต้องตระหนักด้วยว่าเมื่อผู้เล่นคนอื่นๆไม่ได้ลงเล่น พวกเขาจะรู้สึกอย่างไรและคุณควรทำอะไรเพื่อพวกเขาบ้างเมื่อคุณอยู่ในสนามมีหลายแง่มุมที่คุณสามารถมองได้ แต่มันเป็นสิ่งที่คุณไม่สามารถยอมรับได้ และผมก็ต้องพยายามต่อไป”เขากล่าวถึงการกลับมาลงเล่นให้กับทีมอีกครั้ง

โจลิออน เลสคอตต์ อดีตแนวรับทีมชาติอังกฤษของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไม่เชื่อว่าปราการหลังรุ่นน้องอย่าง จอห์น สโตนส์ จะได้รับการปฎิบัติที่ไม่ยุติธรรมจากุนซืออย่าง เป๊ป กวาดิโอล่า และเขาเห็นด้วยที่ทีมควรปรับเปลี่ยนทีมเมื่อมีผลงานไม่ดี ปราการหลังทีมชาติอังกฤษในฤดูกาลนี้ ได้รับโอกาสลงสนามแค่เพียง 10 เกมเท่านั้นในศึกพรีเมียร์ลีก อีกทั้งยังมีปัญหาในเรื่องของปัญญาอาการบาดเจ็บและฟอร์มการเล่น จนทำให้ แฟร์นานดินโญ่ ต้องถูกถอยลงมาเล่นเป็นปราการหลังจำเป็นในฤดูกาลนี้

“มีแค่เพียง เป๊ป เท่านั้นที่รู้จักนักเตะเป็นอย่างดี เขามีการเปลี่ยนแปลงนักเตะเสมอระหว่าง จอห์น สโตนส์ และ นิโคลาส โอตาเมนดี้”

“ตอนนี้คัวหลักของ เป๊ป ก็คือ แฟร์นานดินโญ่ แต่ผมไม่คิดว่าจะมีใครได้รับการปฎิบัติที่ไม่ยุติธรรมจากุนซือ พวกเขาได้รับโอกาสลงสนามเท่าๆกันทุกคน เห็นได้ชัดว่านักเตะอยากลงสนามทุกเกม แต่มันคงเป็นไปไม่ได้ในทุกๆวันนี้ ผมมั่นใจว่าพวกเขาจะหากองหลังตัวหลักอีกซักคนในซัมเมอร์นี้ แต่มันก็ยากที่จะคิดว่าใครในทีมที่เหมาะสมลงเล่นเป็นหลักในฤดูกาลนี้”

เป๊ป กวาดิโอล่า นายใหญ่ของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ หวังว่าลูกศิษย์ของเขาอย่าง จอห์น สโตนส์ จะยังมีโอกาสติดทีมชาติอังกฤษเพื่อไปเล่นฟุตบอลยูโร 2020 ในซัมเมอร์นี้ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษได้รับโอกาสลงสนามให้แมนซิตี้ ไม่ถึงครึ่งหนึ่งของขำนวนเกมที่พวกเขาลงทำการแข่งขันในฤดูกาลนี้ หลังเจ้าตัวมีปัญหาในเรื่องของฟอร์มการเล่นและการสอดแทรกตัวจริงภายในทีมของเป๊ป อย่างไรก็ตาม เป๊ปก็ยังหวังว่านักเตะของเขาจะทำได้ดีพอเตะตาผู้จัดการทีมอย่าง แกเร็ธ เซาท์เกธ

“มันเป็นปัญหาของผมนะ ผมเป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน ผมเองก็ผิดหวังเมื่อพวกเขาผิดหวังเช่นกัน” เป๊ป กวาดิโอล่า พูดถึงโอกาสในของ สโตนส์ กับทีมชาติอังกฤษ

“ผมอยากให้ จอห์น ติดทีมชาติอังกฤษ ความรู้สึกของผมที่มีต่อเขายังคงเหมือนเดิม ผมเองก็ต้องทำการตัดสินใจอย่างตรงไปตรงมา มันไม่ง่ายเลยในการเลือก เอริค กราเซีย ลงสนามก่อน จอห์น สโตนส์ แต่เขาเล่นได้ดีมากๆและเขาสมควรได้รับโอกาส แต่แน่นอนว่านั่นไม่ใช่ปัญหาเดียวที่ทำให้เขาไม่ได้รับโอกาสลงสนามมากเท่าที่ควรในฤดูกาลนี้ เขาต้องลงเล่นด้วยฟอร์มที่ดีที่สุดของเขาเมื่อได้รับโอกาสเช่นกัน”

เทรเวอร์ ซินแคลร์ อดีตปีกของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ เชื่อว่า จอห์น สโตนส์ กลายเป็นปราการหลังตัวเลือกลำดับที่ 8 ของทีมชาติอังกฤษและเขาต้องเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างให้เร็วที่สุด การย้ายออกจากถิ่นเอติฮัด สเตเดี้ยม ยังคงมีความเป็นไปได้สำหรับปราการหลังวัย 25 ปี รายนี้หลังมีการตั้งคำถามถึงคุณค่าของเขาภายในทีมแชมป์เก่าพรีเมียร์ลีก และ ซินแคลร์ เชื่อว่า สโตนส์ จะต้องทำการตัดสินใจอนาคตของเขาเองโดยด่วนที่สุด ก่อนที่อะไรมันจะสายเกินไปกว่านี้

“ถ้าคุณมองไปที่การแข่งขัน นี่คือตำแหน่งที่แข็งแกร่งที่สุดของทีมชาติอังกฤษ” เทรเวอร์ ซินแคลร์ เผยกับ talkSPORT

“เห็นได้ชัดว่าอันดับหนึ่งคือ แฮร์รี่ แม็คไกวร์ รองลงมาผมคิดว่าคือ โจ โกเมส และตามด้วย ฟิกาโย่ โทโมริ ที่กำลังทำได้อย่างยอดเยี่ยมในฤดูกาลนี้เช่นเดียวกัน สำหรับผม เมสัน โฮลเกต อาจจะมาก่อน ไมเคิ่ล คีน ด้วยซ้ำ หลังจากนั้นยังมี เจมส์ ทาร์คอฟสกี้ และ คริส สมอลลิ่ง ที่อยู่ก่อนหน้า จอห์น สโตนส์ ด้วยเช่นกัน ผมชอบเขานะ อย่าเข้าใจผมผิด แต่เขาต้องทำอะไรซักอย่าง เพื่อนที่จะกลับมาเป็นตัวเลือกแรกๆให้กับ แมนซิตี้ และทีมชาติอังกฤษ”

เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือหัวใสของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเตือนปราการหลังทีมชาติอังกฤษอย่าง จอห์น สโตนส์ ว่าเขาต้องรักษาสภาพความฟิตให้ได้ ถ้าหาเขาต้องการไปให้จุดพีคของเขาเองในการค้าแข้งที่เอติฮัด สเตเดี้ยม ปราการหลังวัย 25 ปี ลงสนามให้กับ แมนซิตี้ แค่เพียง 12 เกมเท่านั้น ซึ่งเกมนัดล่าสุดเป็นเกมที่พวกเขาพ่ายให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 2-1 และไม่เคยลงสนามติดต่อกันถึง 5 เกมมาแล้ว 1 ปี เต็มๆเลยทีเดียว

“เขามีคุณภาพมากพอที่จะไปถึงจุดที่ดีที่สุดของเขา แต่ปราการหลังที่ดที่สุด คุณต้องลงเล่นต่อเนื่อง 1 ฤดูกาลเต็มๆได้หรือลงเล่นทุกๆ 3 วันกับเราที่นี่” เป๊ป กวาดิโอล่า กล่าว

“มันเป็นไปได้ยากที่เขาจะไปถึงจุดสุงสุดของเขาเพราะว่าเขาต้องได้ลงเล่นต่อเนื่อง ในช่วง 3 ปี ครึ่งที่ผ่านมา เขาไม่สามารถทำแบบนั้นได้เลย บางครั้งเมื่อคุณโดนอาการบาดเจ็บเล่นงาน ยกตัวอย่างเช่น อายเมริค ลาปอร์ต ในฤดูกาลนี้ หรือ เบนจามิน เมนดี้ ซึ่งมันเป็นเรื่องที่น่าผิดหวัง”

“แต่ในกรณีของ จอห์น ผมไม่เข้าใจทำไมเขาไม่ได้ลงเล่นต่อเนื่อง พวกเราพยายามช่วยเขา เราพยายามทำทุกอย่างตลอด 3 ปีครึ่งที่นี่ พวกเราทำทุกอย่างเพื่อเขา มันขึ้นอยู่กับเขาเองแล้วในตอนนี้ มันขึ้นอยู่กับเขาและความคิดของเขาว่าจะก้าวขึ้นไปเป็นหนึ่งในปราการหลังที่ดีที่สุดได้ยังไง”

เป๊ป กวาดิโอล่า กุนซือหัวใสของทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ออกมาเปรยๆว่านักเตะอย่าง เซอร์จิโอ อเกวโร่ และ จอห์น สโตนส์ อาจจะหายเจ็บกลับมาลงสนามได้ในเกมกับ เลสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์นี้ นักเตะคนสำคัญทั้ง 2 คน กลับมาซ้อมกับทีมได้ในสัปดาห์นี้และ เป๊ป กวาดิโอล่า ก็หวังว่าในวันเสาร์นี้ อเกวโร่ และ สโตนส์ จะพร้อมช่วยทีมในเกมที่เอติฮัด สเตเดี้ยม แต่กระนั้น ดาบิด ซิลบา ก็ยังคงไม่ชัวร์สำหรับเกมในวันเสาร์นี้

“เซอร์จิโอ อเกวโร่ และ จอห์น สโตนส์ กลับมาซ้อมได้แล้ว” กวาดิโอล่า เผยในการแถลงข่าว

“พวกเขากลับมาซ้อมได้ตามโปรแกรม แต่ ดาบิด ซิลบา ไม่”

การกลับมาของ อเกวโร่ และ สโตนส์ ถือว่าสำคัญสำหรับ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ มากๆหลังพวกเขาทำคะแนนหล่นจนเป้นฝ่ายตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง ลิเวอร์พูล ไปไกลถึง 14 คะแนน ซึ่งพวกเขาจะลงเล่นกับทีมที่ทำผลงานดีอย่าง เลสเตอร์ ซิตี้ ภายใต้การคุมทีมของ แบรนดัน ร็อดเจอร์ส ที่รั้งเป็นรองจ่าฝูงอยู่ ณ ขณะนี้

แมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะไม่มีปราการหลังคนสำคัญของทีมอย่าง จอห์น สโตนส์ ในเกมยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ที่พวกเขาจะต้องออกไปเยือน ดินาโม ซาเกร็บ ในวันพุธนี้ ปราการหลังทีมชาติอังกฤษไม่ได้ซ้อมร่วมกับทีมในช่วงเช้าของวันอังคารและไมไ่ด้เดินทางไปที่ประเทศโครเอเชียร่วมกับทีม สำหรับลงเล่นในเกมนัดนี้ สโตนส์ แนวรับวัย 25 ปี ถูกหิ้วปีกออกจากเกมที่พวกเขาพ่ายมให้กับ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ในเกมพรีเมียร์ลีกเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา และยังคงไม่รู้ว่าเจา้ตัวจะต้องพักนานขนาดไหนกับอาการบาดเจ็บในครั้งนี้

อาการบาดเจ็บของเขาทำให้ แมน ซิตี้ ต้องปรับตำแหน่งเซ้นเตอร์แบ็คใหม่ทั้ง 2 คน หลังจากที่ เฟอร์นานดินโญ่ แนวรับชาวบราซิลจะถูกแบนในเกมนัดนี้อีกด้วย ทำให้ดาวรุ่ง อีริค การ์เซีย และ เทย์เลอร์ ฮาร์ดวู้ด-เบลลิส จะได้รับโอกาสลงเล่นให้กับทีมชุดใหญ่ โดยมี นิโคลาส โอตาเมนดี้ เป็นกำลังหลัก

แกเร็ธ เซาท์เกธ ผู้จัดการทีมชาติอังกฤษ เปิดเผยว่าเขาจะจับตาดูฟอร์มการเล่นของ จอห์น สโตนส์ ปราการหลังแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในเกมกับ ลิเวอร์พูล ในวันอาทิตย์นี้เป็นพิเศษ เซาท์เกธ ไม่เรียก สโตนส์ ติดทีมชาตินับตั้งแต่ผิดพลาดในเกมกับทีมชาติเนเธอร์แลนด์ ในฟุตบอลยูฟ่า เนชั่นส์ ลีก ก่อนจะพ่ายไปด้วยสกอร์ 3-1 ในเดือนมิถุนายน สโตนส์ กลับมามีชื่อติดทีมชาติอีกครั้งสำหรับลงทำศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบคัดเลือกในสัปดาห์หน้าและ เซาท์เกธ ก็ให้ความสนใจกับเขาเป็นพิเศษ

“เรารู้ว่าเขามีคุณภาพ เขาลงเล่นเป็นส่วนสำคัญในฟุตบอลโลก เขามีช่วงเวลาที่ยากลำบากด้วยอาการบาดเจ็บในระยะหลังๆ อย่างที่ผมบอก การหลับมาลงสนามในระยะหลังๆเขาทำได้ดีมากๆ แต่เขายังไม่ถูกทดสอบอะไรมากมายนักและเกมในวันอาทิตย์นี้ผมคิดว่าเขาจะเจองานหนักแน่ๆและเราจะจับตาดูเขา”

จอห์น สโตนส์ ยอมรับว่าตัวเขาและเพื่อนร่วมทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ จะต้องรักษามาตรฐานของทีมเอาไว้ให้ได้ในขณะที่ทีมแชมป์พรีเมีย์ลีกกำลังทำงานอย่างหนักเพื่อทดแทนนักเตะตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บ พวกเขามีนักเตะตัวหลักที่ได้รับบาดเจ็บมากมายอย่าง โรดรี้, โอเล็กซานเดอร์ ซินเชนคอฟ, ลีรอย ซาเน่ และ อายเมริค ลาปอร์ต ก่อนที่จะต้องออกไปเยือน ลิเวอร์พูล ทีมจ่าฝูงในวันอาทิตย์นี้

“พวกเราต่างต้องก้าวขึ้นมา สู้เพื่อตำหน่งของเรา สู้เพื่อเพื่อนร่วมทีมของเรา นักเตะของเราที่ได้รับบาดเจ็บอย่าง ลีรอย ซาเน่ และ อายเมริค ลาปอร์ต” สโตนส์ กล่าว

“พวกเราต้องเล่นเพื่อเขา พวกเราต้องทำงานหนักทุกๆวันในสนามซ้อมและกำหนดมาตรฐานสำหรับทุกๆคน นี่คือสิ่งที่ทำให้เราประสบความสำเร็จในฤดูกาลก่อน พวกเราต้องรับภาระท้งในฐานะนักเตะและในฐานะทีม”